กลับมาสร้างผลงานเพลงดีๆอีกครั้ง สำหรับ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ที่กำลังจะหอบเอามวลความสุขก้อนโตมาให้แฟนเพลง พร้อมย้ำวิถีคนสุขฉบับโต๋ ด้วยการส่งซิงเกิ้ลแรก “ยิ้มก็พอ” เพลงรักอารมณ์สนุกที่จะมาปลุกรอยยิ้มให้เกิดขึ้นทุกวัน
เปิดภาพลักษณ์คูลๆในสไตล์หนุ่มขี้เล่น อารมณ์ดี จากอัลบั้ม “Chapter I” ไปแล้วชุดก่อน โดยฝีมือของ Charles Fisher โปรดิวเซอร์ชาวออสเตรเลีย ผู้เข้ามาทำหน้าที่ปลดล็อคคำว่า The Musician ที่โต๋แบกไว้มาหลายปีให้คลายลง พร้อมละเลงโทนใหม่ๆเข้าไปในพาร์ทดนตรี ให้ซาวนด์มีลูกเล่นที่สนุกสนาน บวกเข้ากับประสบการณ์ที่เติบโต จนเกิดเป็นสีสันใหม่ๆ ที่ให้ความเปลี่ยนแปลงทั้ง แนวคิด ชีวิต และการทำงานในเวลาต่อมา
“ความสุขจากการให้โดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทน” คือแก่นแนวคิดหลัก ที่โต๋ใช้นำทางตัวเอง หลังผ่านกระบวนการทำงานมาหลายหลาก ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงละครเวทีเรื่อง “ลมหายใจ เดอะ มิวสิคัล” ประตูด่านแรก ที่ทำให้โต๋ก้าวขาออกมายืนนอกกรอบของตัวเองได้สำเร็จ จากนั้นได้เริ่มออกค้นหาความสามารถในมุมใหม่ของตัวเองในเส้นทางที่ไกลขึ้น ด้วยการเข้าแข่งขันในรายการ “หน้ากากนักร้อง : The Mask Singer” กับคาแร็คเตอร์ทะเล้นและยียวนของ “หน้ากากไก่ฟ้า” จนกลายเป็นคาแร็คเตอร์ที่ทำให้คนเข้าถึงและทำความรู้จักตัวตนของโต๋ในมุมที่ลึกขึ้น
รวมถึงสไตล์การร้องเพลง ก็ได้ฉีกแนวออกไปจากสิ่งที่เคยเป็น ยิ่งทำให้ภาพการเป็นเอ็นเทอร์เทนเนอร์ฉายแววออกมาเด่นชัด และยังมีก้าวที่ได้ทำต่อเนื่องไปอีกหลายก้าว ไม่ว่าจะเป็น การเข้าไปนั่งเป็นคอมเม้นต์เตเตอร์ หรือเป็นคณะกรรมการในการรายการ “I Can See Your Voice”, “Super 60+” และ “The X Factor Thailand” ล่าสุดโต๋ยังรับบทบาทงานแสดงละครทางโทรทัศน์อีกด้วย เหล่านี้ล้วนเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ความสามารถที่เพิ่มขึ้นในแต่ละก้าว ทำให้โต๋สมารถสร้างพื้นที่ในวงการบันเทิงในฐานะ Pop Star ได้อย่างแข็งแรง
แม้จะได้ลองทำอะไรที่เข้ามาในชีวิตมากมาย แต่สุดท้ายสิ่งที่เป็นตัวตนจริงๆก็คือดนตรี !
หลังการรีสตาร์ทตัวเองจากอัลบั้ม “Chapter I” ประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามา ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่อีกครั้ง เมื่อตอนทำกิจกรรม “Chapter I Live Showcase” งานโชว์เคสเปิดอัลบั้มที่สร้างเซอร์ไพร้ซ์สุดๆกับแฟนเพลง ด้วยภาพลักษณ์ที่แปลก, ต่าง และยิ่งตอกย้ำด้วยภาพการกลับมารวมตัวกันของวง B5 พร้อมคอนเสิร์ท “B5 Now 15 Concert” ที่แสดงศักยภาพให้ทุกคนได้เห็นว่า นอกจากการเป็นนักร้อง นักดนตรีคุณภาพ วันนี้โต๋สามารถทำหน้าที่เอ็นเตอร์เทนคนดูทุกกลุ่มในคอนเสิร์ตได้สนุกและมีเสน่ห์ไม่น้อย
เหล่านี้คือพลังแห่งความสุข ที่ได้รับมาจากการทำงานและการใช้ชีวิต และถูกนำมาแปรเป็นคอนเส็ปท์หลักในการทำงานเพลงชุดใหม่ ด้วยการนำเอาความสุขมาเป็นที่ตั้ง และทำการกระจายความสุขนี้ลงไปสู่บทเพลงต่างๆหลากเรื่องราวเพื่อส่งต่อไปสู่คนฟัง ภาพรวมของอัลบั้ม เลยจะให้สีสันและมุมองในโทนที่สนุกและทันสมัย ประกอบเข้ากับพัฒนาการในเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ของโต๋ก็จะมีความเด่นชัดกว่าอัลบั้ม “Chapter I” นอกจากนี้ยังมีความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวในโทนสดใสสบายตา หรือกระทั่งการออกแบบโลโก้ประจำตัวใหม่ที่จะสื่อให้เห็นถึงตัวตนในแบบใหม่ของโต๋มากขึ้นเช่นกัน
ในพาร์ทเนื้อร้อง อัลบั้มนี้ ยังเป็นทีมเขียนเนื้อระดับคุณภาพ อย่าง โป โปษยะนุกูล ที่จะมาถ่ายทอดมุมมองให้เห็นคาแร็คเตอร์ของโต๋ในมุมเติบโตแบบผู้ชายธรรมดาที่มีดนตรีอยู่ในทุกช่วงของชีวิต ภาคดนตรีก็ยังอยู่ภายใต้การดูแลของ Charles Fisher โปรดิวเซอร์มือทอง (ที่เคยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Savage Garden) ผู้เข้ามาปลุกความสว่างไสวให้กับตัวโน้ต ในการพางานให้ข้ามไปสู่ดนตรีแนวอีเล็คโทรนิคส์-ป็อบ ที่เพิ่มสีสันด้วยการใช้เสียงสังเคราะห์ พร้อมเปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรก “ยิ้มก็พอ” เพลงรักอารมณ์ดี ที่จะเผยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวโต๋ทุกๆด้าน ทั้งในพาร์ท ดนตรีและคาแร็คเตอร์ ที่สำคัญเพลงนี้ ยังเพิ่มดีกรีความพิเศษอีกสเต็ป ด้วยการเชิญแร็ปเปอร์สาว ที่กำลังอยู่ในกระแสนักฟังรุ่นใหม่อย่าง Wonderframe มาร่วมงานกัน และนี่คือการทำงานครั้งแรกที่โต๋ได้ Featuring กับนักร้องคนไทย
การกลับมาในครั้งนี้จึงเป็นเสมือนการเดินทางบนถนนเส้นใหม่ที่โรยไปด้วยความสุขจากการเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง
เตรียมหัวใจให้พร้อมกับสิ่งที่กำลังจะถาโถม อมยิ้มไปกับการให้โดยไม่ต้องร้องขอ ฟังเสียงของความสุขแล้วยิ้มไปกับบทเพลงเพราะๆของ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว